เมื่อพูดถึงหนูแฮมสเตอร์หลายคนพูดไปในทางเดียวกันว่าคือ สัตว์เลี้ยงที่จัดอยู่ในกลุ่มฟันแทะน่ารักกับลักษณะของเจ้าขนปุยตัวนี้ ส่วนประวัติก่อนมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวคือเป็นสัตว์ที่อยู่ในทะเลทราย โดยถูกพบครั้งแรกในทะเลทรายซีเรีย ส่วนชื่อที่ได้มาจากภาษาเยอรมันเชียวนะ ซึ่งแปลว่า “กระพุ้งแก้ม” นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบันมี 5 สายพันธุ์คือ ซีเรียน แฮมสเตอร์ หรือแฮมเตอร์ ไจแอนท์, แคมแบลล์ รัสเชียน แฮมสเตอร์, วินเทอร์ ไวท์ รัสเชียน แฮมสเตอร์, ไชนีส แฮมสเตอร์ และโรโบรอฟสกี้ แฮมสเตอร์ ส่วนอายุเฉลี่ยสูงสุดที่ 2-3
ลักษณะนิสัยหนูแฮมสเตอร์ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยง
ก่อนจะตัดสินใจจิ้มไปเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ แนะนำว่าควรรู้จักพวกเขาให้ดีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยใจคอของพวกเขา ซึ่งต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นสัตว์บกที่มีนิสัยโดยหลัก ๆ คือ พวกเขาเป้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชื่นชอบการนอนและกินเป็นที่สุด ขี้อายแต่ถามว่าพวกเขารู้จักชื่อตัวเองไหม ย้ำว่าพวกเขารู้จักเพียงแต่จะรู้สึกเฉย ๆ กับการเรียกเท่านั้น อยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา ชอบนอนกลางวันหากินกลางคืน ส่วนสายตาจะไม่ค่อยดีแต่สามารถมองเห็นได้ 110 องศารอบตัว และการเลี้ยงรวมกันนั่นคือสิ่งที่ผิดเพราะมีโอกาสที่พวกเขาจะกัดกันจนตาย เพราะเป็นสัตว์ที่รักสันโดษและหวงถิ่น ส่วนวิธีการเลี้ยงไม่ได้ยากอย่างที่คิดแน่นอน
วิธีการเลี้ยงสำหรับมือใหม่มีอะไรกันบ้างตามไปดูกันเลย
สำหรับวิธีการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ง่าย ๆ ที่จะพูดถึงคือ การจัดแจงสถานที่ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของพวกเขา และต้องเข้าใจว่าอาหารของพวกเขาคืออาหารของสัตว์บกหรือเลี้ยงลูกด้วยนม โดยไม่ควรใช้อาหารของสัตว์น้ำ จากนั้นคอยสังเกตสุขภาพของพวกเขาอย่างละเอียดเช่นกัน เพราะถึงแม้จะไม่ใช่สัตว์หายากแต่ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด ส่วนตอนนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันว่าหากต้องการเลี้ยงเจ้าขนปุย จะต้องเริ่มต้นด้วยขั้นตอนกันบ้างดังนี้
- ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับลักษณ์นิสัยและพฤติกรรมสายพันธุ์ที่เลี้ยงอย่างละเอียด
เมื่อตัดสินใจเลี้ยงเจ้าตัวฟันแทะขนปุยแล้ว อย่างแรกที่ต้องจัดการทันทีคือทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกเขาเป็นหลัก โดยสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบัน ดังนั้นจะต้องเช็กก่อนว่าสายพันธุ์ที่เลี้ยงจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร เพราะหากไม่เข้าใจสายพันธุ์ที่ต้องการเลี้ยงจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ง่ายถึงขั้นอาจจะทำให้เขาจากไปก่อนเวลาอันควรก็ได้
- หาแหล่งซื้อที่ดีได้คุณภาพ
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อจะต้องเช็กฟาร์มหรือแหล่งที่มาของหนูก่อนว่ามีคุณภาพดีหรือไม่ ป้องกันการโดนย้อมแมวขาย รวมถึงทำให้เสียเวลา เสียเงินโดยใช่เหตุ โดยทริคที่ควรรู้คือต้องซื้อหนูอายุ 1 เดือนมากที่สุด และที่สำคัญควรซื้อในช่วงเย็นหรือค่ำ เพราะเวลานั้นพวกเขาจะมีความตื่นตัวมากที่สุด
- จัดแจงพื้นที่สำหรับเลี้ยงให้เหมาะสม
มาต่อกันด้วยเรื่องของการเตรียมสถานที่สำหรับเลี้ยงจะต้องเลือกกรงที่เหมาะสม โดยจะต้องเลือกขนาดที่เหมาะกับสายพันธุ์หรือขนาดตัวในเวลานั้น ๆ เพื่อป้องกันการหลุดออกจากกรง รวมถึงควรซื้อแบบตู้กระจกเพื่อสังเกตพวกเขาได้ง่าย นอกจากนั้นหากบ้านไหนมีน้องหมาหรือน้องแมวอยู่แล้ว ต้องระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเจ้าแฮมสเตอร์ รวมถึงจะต้องทำความสะอาดกรงบ่อย ๆ
- การให้อาหารและน้ำจะต้องพร้อม
ส่วนเรื่องของอาหารการกินจะต้องรู้เช่นกัน เพราะทันทีที่ตัดสินใจเลือกสัตว์เลี้ยงชนิดนี้เป็นต้นมาจะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการให้น้ำและอาหารเหมาะกับนิสัยของพวกเขาโดยตรง โดยจะต้องมีเครื่องให้น้ำโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเขาไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเท่าไหร่ ส่วนเรื่องของอาหารต้องระวังเช่นกัน เพราะหากให้ในปริมาณเยอะเกินไป จะทำให้พวกเขาเป็นโรคอ้วนได้ง่าย นอกจากนั้นสามารถเสริมอาหารด้วย แครอท แตงกวา แอปเปิล รวมถึงมะเขือเทศ ควบคู่ไปกับอาหารเม็ดที่ให้บ่อย ๆ ก็ได้
บทสรุป
การเลี้ยงแฮมสเตอร์รับรองว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย และถือว่าเป็นสัตว์ที่ค่อนไปทางเลี้ยงง่ายมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหากจะเลี้ยงจริง ๆ ต้องศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อให้พวกเขาอยู่กับเราไปได้นาน ๆ ezrocking-ranch.com
บทความเพิ่มเติม
- หูอักเสบ อาการที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าแมวกำลังชัก
- ไข้หวัดแมว คืออะไร หวัดแมวอาการ เป็นอย่างไร และรักษาได้ไหม มาทำความเข้าใจกัน
Sponsor : sa-game.bet
