เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่านกแก้ว ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Psittacus Torquata โดยเราจะได้ยินบ่อย ๆ คือ Parrot จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงน่ารัก โดยนกชนิดนี้มีหลายขนาด มีสีสันสวยงามตามลักษณะของสายพันธุ์ ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกัน 13 สายพันธุ์ด้วยกัน ลำตัวจะมีความยาวตั้งแต่ 7-100 เมตร และจะมีลักษณะเด่นมากที่สุดคือจะงอยปากทรงพลังแข็งแรง ทนทาน เพื่อใช้สำหรับกะเทาะผลไม้หรือพืชผลที่มีเปลือกแข็งให้แตกได้ง่าย ชอบอาศัยบนโพรงต้นไม้ ส่วนอายุขัยของพวกเขาจะมีอายุยืนยาวราว ๆ 50-70 ปี
ก่อนเลี้ยงนกแก้วต้องรู้จักนิสัยของพวกเขาก่อนอันดับแรก
ก่อนตัดสินใจเลี้ยงนกแก้วมีบางอย่างที่ต้องรู้มากมาย และอันดับแรกที่ต้องรู้ของสัตว์บก ชนิดนี้คือ นิสัยใจคอโดยเริ่มต้นคือพวกเขาเป็นสัตว์สังคม จึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงเพียงแค่ตัวเดียว ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นนกที่ต้องการพื้นที่จำนวนมากเพราะชอบออกกำลังกาย ชอบเลียนเสียงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงพูดของคนในบ้าน ดังนั้นหากตั้งใจเลี้ยงไว้ในบ้านจะต้องพูดในสิ่งดี ๆ ให้เขาได้ยินทุกวัน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องรู้เช่นกันคือพวกเขาเป็นนกที่รักความสะอาดไม่แพ้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรือสัตว์อื่น ๆ เลย และสุดท้ายเป็นนกที่ต้องการการเอาใจใส่ค่อนข้างสูง
ส่วนวิธีการเลี้ยงย้ำว่าไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเลยด้วยซ้ำ
ส่วนใครที่กำลังวางแผนจะเลี้ยงนกแก้วโดยยังไม่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงทั้งสัตว์น้ำหรือสัตว์บกมาก่อน หรือเรียกรวม ๆ ว่าเป็นมือใหม่ วันนี้รับรองว่าทุกคำถามจะหายไปทันที เพราะเรามีวิธีการเลี้ยงมาแนะนำ ซึ่งรับประกันว่าทุกวิธีการเลี้ยงไม่ได้ต่างจากการเลี้ยงสัตว์หายากชนิดอื่น ดังนั้นวันนี้จะช่วยคลายความกังวลมากขึ้น เพราะมั่นใจได้เลยว่าหลังจากนี้การเลี้ยงจะไม่ยุ่งยากแน่นอน ทั้งนี้สำหรับการเลี้ยงนกแก้วในปัจจุบันไม่ยากเพียงแค่คำนึงถึง 5 เรื่องสำคัญดังนี้
- เลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับพวกเขา
การเลี้ยงพวกเขาจะต้องเลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับพวกเขามากที่สุด โดยสามารถออกแบบที่อยู่ของพวกเขาได้ 3 แบบหลัก ๆ คือการให้พวกเขาเกาะบนคอนโดยไม่มีกรงขัง เพื่อเพิ่มอิสระให้พวกเขามากขึ้น ต่อมาคือแบบกรงภายในคือกรงจะมีขนาด 2×3 ฟุต แต่จะมีข้อแม้ว่านกจะต้องกางปีกได้ง่าย ส่วนแบบสุดท้ายคือกรงภายนอกคือจะเป็นการเนรมิตที่อยู่ของพวกเขาให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งน่าจะทำให้พวกเขาอารมณ์ดีมากขึ้นตามไปด้วย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องระวังไม่ให้พวกเขาโดนแดดมากเกินไป
- อาหารการกิน
การเลี้ยงนกชนิดนี้จะต้องรู้ด้วยว่าพวกเขาต้องการอาหารมีความหลากหลาย และมีสารอาหารครบถ้วน โดยอาหารที่พวกเขาชอบคือ อาหารจำพวกถั่ว ผัก และผลไม้ทุกชนิด ดังนั้นจะต้องคอยดูแลอาหารให้เหมาะสม โดยไม่เน้นถั่วมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดโรคอ้วนตามมาได้
- ของเล่น
แม้ว่าจะเป็นนกแต่เรื่องของเล่นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอารมณ์หงุดหงิดหรือเบื่อง่าย ควรมีของเล่นอยู่ในที่ต่าง ๆ ที่เขาสามารถไปถึงได้ อีกทั้งเพื่อช่วยให้พวกเขามีสุขภาพดีจากการออกกำลังกายไปในตัว โดยของเล่นควรจะเป็นของแข็งไม่ชำรุดได้เลย แต่ไม่ควรจะเป็นวัสดุที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อพวกเขา
- มีเวลาให้พวกเขามากพอ
อย่างที่ทุกคนรู้คือนกชนิดนี้เป็นนกสังคม ดังนั้นการมีเวลาให้พวกเขาเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก อีกทั้งพวกเขาเป็นนกที่ฉลาด จึงจำเป็นต้องกระตุ้นพวกเขาตลอดเวลา เพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อและเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิตของพวกเขาตามมาในภายหลัง เนื่องจากหากพวกเขาไม่ได้รับการดูแลมากพอ จะทำให้เกิดอาการหงุดหงิด และก้าวร้าว ซึ่งอาจจะแสดงออกผ่านพฤติกรรมบางอย่างเช่น ถอนขนตัวเอง หรือแม้แต่ไล่จิกเจ้าของ เป็นต้น
- ต้องมีสัตวแพทย์ที่เข้าใจนกอยู่ใกล้ ๆ
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคอยระมัดระวังไม่แพ้กันคือเรื่องสุขภาพ เพราะเมื่อพวกเขามีอาการเจ็บป่วยหรือไม่สบายอาจจะไม่รู้ ดังนั้นจึงต้องหมั่นสังเกตเขาตลอดเวลา รวมถึงต้องพาเขาไปหาสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
บทสรุป
ทั้งนี้อย่างที่บอกไปว่าการเลี้ยงนกชนิดนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีหลักการและลำดับขั้นตอนไม่กี่ข้อเท่านั้น แต่นอกเหนือจากนั้นจะต้องทำความเข้าใจเรื่องสายพันธุ์ที่เลี้ยงทั้งนิสัยใจคอ ตลอดจนพฤติกรรมต่าง ๆ ของแต่ละสายพันธุ์เพียงแค่นี้คุณก็จะมีสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ ไว้ในบ้านเป็นเพื่อนคลายเหงาได้แล้ว ezrocking-ranch.com
บทความเพิ่มเติม
- พฤติกรรมแมวสามารถบอกได้ว่าวันนี้พวกเขามีความสุขและสุขภาพดีหรือไม่
- ของเล่นแมว สุดเจ๋ง เติมความสุขให้น้องเหมียว
Sponsor : sa-game.bet
